กะสัง : ผักต้านมะเร็งกะสังเป็นผักพื้นบ้าน ที่นิยมกินสดๆ หรือลวกกินกับน้ำพริก กินเป็นสลัด ยำกินก็ได้ กะสังถือเป็นผักต้านมะเร็งชนิดหนึ่ง มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและมีวิตามินซีสูง มีเบต้าแคโรทีนสรรพคุณใบใช้รักษาโรคลักปิดลักเปิด ต้นสดตำพอกฝีและสิว ตุ่มหนอง และโรคผิวหนังอื่นๆ หมอพื้นบ้านใช้รักษาเริม โดยใช้ต้นกะสังผสมกับขมิ้นและข้าวสาร ตำให้ละเอียดแล้วพอกทิ้งไว้ 1 คืน และนำใบมาตำขยำแปะทาเม็ดที่เป็นใต้ราวนมแก้มะเร็งเต้านม ทั้งต้นนำมาต้มเอาน้ำล้างหน้าบ่อยๆ จะทำให้ผิวหน้าสดใส รักษาสิว หมอพื้นบ้านต่างประเทศ (ฟิลิปปินส์) กินผักกะสังสดๆ หรือนำมาต้มกินเพื่อรักษาโรคเก๊าท์และข้ออักเสบ
แห้ว : ยาอายุวัฒนะ ของดีขึ้นชื่อเมืองสุพรรณบุรี มีคุณค่าทางอาหารมากมาย อุดมด้วยแคลเซียม เหล็ก วิตามีนซี มากด้วยเส้นใยอาหารกระตุ้นการทำงานของกระเพาอาหารและลำไส้ช่วยขับของเสีย บรรเทาริดสีดวงทวาร
สรรพคุณ เป็นยาอายุวัฒนะ บำรุงกำลัง บำรุงครรภ์ บำรุงธาตุ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน เพิ่มความอยากอหารในเด็ก ขับปัสสาวะ ละลายเสมหะ บำรุงปอด ลดความดันโลหิต แก้พิษหัด น้ำแห้วสดช่วยบำรุงตับ กระเพาะอาหาร แก้อาการตาแดง แก้อาการเมาสุรา
ขลู่ : ปรับสมดุลร่างกายชื่ออื่นๆ เช่น หนวดงั่ว หนวดงิ้ว หนาดงัว หนาดวัว ขี้ป้าน คลู ขลู ฯลฯ ต้นขลู่ถือเป็นพืชท้องถิ่นจังหวัดจันทบุรี พบมากบริเวณป่าโกงกาง หรือบริเวณที่มีน้ำกร่อย ชาวบ้านนิยมนำใบขลู่มารับประทานกับน้ำพริก หรือนำมาเป็นส่วนหนึ่งของวัตถุดิบในการทำอาหาร สรรพคุณช่วยขับปัสสาวะ ช่วยปรับสมดุลร่างกาย ระบบขับถ่าย ช่วยบำรุงไต บำรุงระบบประสาทในตำราหมอพื้นบ้านใช้ทั้งต้นต้มกินเป็นยาขับปัสสาวะ แก้เบาหวาน ต้มน้ำอาบแก้ผื่นคัน น้ำคั้นใบสดรักษาริดสีดวงทวาร
- ทั้งต้นสดหรือแห้ง เตรียมเป็นยาต้มรับประทานขับปัสสาวะ แก้โรคนิ่วในไต แก้ปัสสาวะพิการ เป็นยาช่วยย่อย แก้ริดสีดวงทวารหนัก ริดสีดวงจมูก แก้เบาหวาน แก้ประดง แก้เลือดลม และผื่นคันตามผิวหนัง
- เปลือกต้น เมล็ด แก้ริดสีดวงทวาร แก้กระษัย เป็นยาอายุวัฒนะ โดยนำมาต้มน้ำรับประทาน หรือต้มน้ำแล้วใช้ไอรมทวารหนัก แก้ริดสีดวงจมูก โดยตากแห้งแล้วเตรียมเป็นยาสูบ
- ใบ มีกลิ่นหอม ต้มน้ำดื่ม แทนเป็นน้ำชา ฝาดสมาน แก้ไข้ ขับปัสสาวะ ขับเหงื่อ แก้กระหายน้ำ แก้บิด แก้ประดง แก้เลือดลม แก้ริดสีดวงทวาร แก้แผลอักเสบอาจใช้ใบสดตำพอกบริเวณที่เป็น และต้มน้ำอาบบำรุงประสาท
- ราก รับประทานเป็นยาฝาดสมาน แก้บิด แก้ไข้ ขับเหงื่อ แก้แผลอักเสบ ใช้รากสดตำพอกบริเวณที่เป็น
บุนนาค : ไม้หอมอันทรงคุณค่าชื่ออื่นๆ เช่น นาคบุตร สารภีดอย ถ้ำก่อ ฯลฯ บุนนาคเป็นไม้ยืนต้น ทรงพุ่มงดงาม ใบเขียวเข้มตลอดปี เหมาะปลูกเป็นไม้ร่มเงาและประดับอาคารสถานที่ ประกอบกับมีดอกขนาดใหญ่ งดงามและกลิ่นหอม ดอกมีกลิ่นหอมส่งกลิ่นไปไกล ออกดอกช่วงเดือนมีนาคม-กรกฎาคม นิยมปลูกตามวัดและบ้านเรือนสรรพคุณทางยา- ดอก : รสหอมเย็นขมฝาด มีฤทธิ์ ฝาดสมาน บำรุงธาตุ ขับลม บำรุงหัวใจ แก้กระหายน้ำ บำรุงเลือด แก้กลิ่นตัว ใช้ผสมเข้ากับเกสรทั้ง 5 เกสรทั้ง 7 และเกสรทั้ง 9 ปรุงเป็นยาหอม ยาลม บำรุงหัวใจ แก้ไข้ แก้ไอ ขับเสมหะ และใช้ขับลม บำรุงดวงจิตให้แช่มชื่น แก้ร้อนกระสับกระส่าย แก้ลมกองละเอียด วิงเวียนใจสั่น อ่อนเพลีย ชูกำลัง
- ผล : มีฤทธิ์ขับเหงื่อ ฝาดสมาน
- เมล็ด : บีบให้น้ำมัน แก้โรคผิวหนัง ปวดข้อ
- ใบ : รสฝาดสมานบาดแผลสด แก้พิษงู
- เกสร : รสหอมเย็น บำรุงครรภ์รักษา ทำให้ชื่นใจ แก้ไข้
- เปลือกต้น : รสฝาดร้อนเล็กน้อย กระจายหนอง
- กระพี้ : รสเฝื่อนเล็กน้อย แก้เสมหะในคอ
- แก่น : รสเฝื่อน แก้เลือดออกตามไรฟัน
- ราก : ขับลมในลำไส้
กระจับ : บำรุงร่างกายมีชื่อพื้นบ้านเช่น กะจับ มาแง่ง พายับ เขาควาย ฯลฯ ผลกระจับหรือเนื้อในฝักกระจับ จะมีสารจำพวกแป้ง เส้นใยมาก นอกจากนี้ยังมีฟอสฟอรัส แคลเซียม โปรตีน วิตามินเอ สารไบคอร์มิน และน้ำตาล จึงมีรสหวานสรรพคุณ-กินสดๆ เป็นยาดับร้อน ดับกระหาย ถ้ากินผลต้มสุกช่วยย่อยระบบขับถ่าย บำรุงกำลัง บำรุงทารกในครรภ์ แก้อ่อนเพลีย บำรุงกำลังหลังฟื้นไข้ นอกจากนี้ผลกระจับยังมีสรรพคุณแก้อาการปวดเมื่อย ปวดหลัง ปวดเอว แก้พิษจากการดื่มสุรา โดยนำเนื้อในฝักจำนวน 3-5 ฝัก มาต้มให้สุกแล้วนำมารับประทาน
- เปลือกหุ้มกระจับ ใช้เป็นยาแก้ท้องร่วง ดากหลุด (หนังทวารหนักที่ยื่นย้อย) ริดสีดวงทวาร ฝีหนอง โดยวิธีแก้อาการดากหลุด ให้เอาน้ำมันงาชะโลมให้ทั่วแล้วจึงล้างด้วยน้ำต้มเปลือกหุ้มผลกระจับให้สะอาด
- ก้านขั้วผลกระจับ ใช้รักษาหูดได้ดี ให้เอาก้านขั้วผลกระจับมาถูบริเวณที่เป็นหูด วันละ 6-8 ครั้ง ครั้งละ 2 นาที หูดจะค่อยๆ หลุดออกไป
- ใบกระจับ แก้ไอ ขับเมือก ล้างลำไส้ และใช้เป็นยาช่วยเสริมสมรรถภาพตาของเด็กได้ด้วย
หงอนไก่ : ความงามที่ผูกพันคนไทยงดงามโดดเด่นด้วยรูปทรงและสีของดอก ปลูกง่าย แข็งแรง ทนทาน ออกดอกตลอดทั้งปี ดอกบานแล้วมีอายุยาวนาน ดอกเป็นรูปร่างคล้ายหงอนไก่ สีของดอกที่คุ้นเคยกันดี ก็คือ สีแดงเข้ม คล้ายสีหงอนไก่จริงๆ แต่ในปัจจุบันมีการผสมพันธุ์จนได้หงอนไก่ที่มีสีต่างๆ เพิ่มขึ้น
สรรพคุณทางยา รากแก้ไข้เพื่อลม (ใช้ในฤดูฝน มีอาการท้องอืดเฟ้อ) และไข้พิษ แก้โลหิต และลมอัมพฤกษ์ บำรุงธาตุ แก้หืด แก้เสมหะ มีรสเผ็ดร้อน
พลูคาว : สรรพคุณเหลือล้นชื่อพื้นเมืองอื่นๆ เช่น คาวตอง, คาวทอง, ก้านตอง, เข้าตอง, คาวปลา ฯลฯ พลูคาวทั้งต้น ราก และใบนำมาใช้เป็นยาสมุนไพรได้ทั้งหมด โดยนำมาต้มเพื่อดื่มเป็นเครื่องดื่มสมุนไพร หรือนำมาปรุงอาหาร กินสดก็ได้สรรพคุณกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันในผู้ป่วยมะเร็ง ยอดและใบมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยทำให้แผลอักเสบหายเร็วขึ้น บำรุงผิวให้ดูอ่อนเยาว์ นอกจากนี้ยังช่วยในการไหลเวียนโลหิตดี ลดการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ป้องกันเส้นเลือดฝอยแตก ต้านเชื้อแบคทีเรีย แก้ริดสีดวงทวาร โรคหัด โรคผิวหนัง แก้หอบ ไอ ขับเสมหะ ขับปัสสาวะ ช่วยลดความดันโลหิตสูง แผลในกระเพาะอาหาร ยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอก และช่วยต้านความเสื่อมของร่างกายได้
ข้อควรระวัง : ห้ามรับประทานมากเกินไป อาจเป็นอันตรายได้ จึงควรรับประทานสลับสับเปลี่ยนกับพืชผักชนิดอื่น เพื่อลดการสะสมของสารมากเกินความจำเป็น
ผักปลัง : บำรุงสายตา ขับปัสสาวะผักปลังนอกจากจะมีสารบีตาแคโรทีน ที่เมื่อกินเข้าไปในร่างกายจะถูกเปลี่ยนเป็นวิตามินบำรุงสายตาแล้ว ยังมีประโยชน์ทางยา คือ ก้านแก้พิษฝี ขัดเบา ใบช่วยขับปัสสาะ แก้อาการอักเสบ กลาก ผื่นคัน ดอกแก้เกลื้อน รากแก้มือเท้าด่าง รังแค
แพงพวยฝรั่ง : พืชต้านมะเร็งไม้ดอกไม้ประดับที่ปลูกง่ายตายยาก ออกดอกงดงามตลอดปี
สรรพคุณทางยา ทั้งต้นใช้ต้มดื่มแก้โรคเบาหวาน ลดความดัน ส่วนใบ แก้โรคเบาหวาน บำรุงหัวใจ แก้มะเร็งในเม็ดเลือดของเด็ก แก้มะเร็ง แก้ท้องผูกเรื้อรัง ขณะที่ราก แก้บิด ขับระดู ห้ามเลือด รักษามะเร็งในเม็ดเลือด ทั้งนี้การใช้ประโยชน์ทางยาควรใช้ตากแห้งก่อน เนื่องจากมีน้ำยาง เป็นพืชที่มีการศึกษาคุณสมบัติในการรักษาโรคมะเร็งมากที่สุดชนิดหนึ่ง
เมี่ยงคำ : ใบทองหลาง ช้าพลู
เมี่ยงคำเป็นหนึ่งในอาหารไทยที่รู้จักกันมายาวนาน แต่คนรุ่นใหม่ในปัจจุบันกลับรู้จักน้อยลง เมี่ยงคำ 1 ชุดประกอบด้วย มะพร้าวซอยคั่ว ถั่วลิสงคั่ว หอมแดง ขิง มะนาว พริกขี้หนูสด กุ้งแห้ง น้ำเมี่ยงคำ และผักที่กินคู่กับเมี่ยงคำ คือ ใบทองหลาง และช้าพลู ซึ่งเป็นเป็นผักพื้นบ้านไทย เมี่ยงคำ 1 คำ มีสารอาหารครบ 5 หมู่ มากด้วยสมุนไพรนานาชนิด
สรรพคุณทางยา : ป้องกันโรคมากมาย นอกเหนือจากนี้ยังได้เส้นใยอาหารจากพืชหลากหลาย ช่วยให้ระบบขับถ่ายดี ช่วยขับสารพิษ ช่วยเผาไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย
มะหวดชื่อเรียกอื่นๆ : สีหวด กำซำ กะซ่ำ มะหวดบาท กำจำ ซำ หวดคา หวดลาว ฯลฯ ผลไม้พื้นบ้าน ออกดอกราวเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม ติดผลราวเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม ผลสุกสีม่วงดำ พบตามทั่วไปป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้ง หัวไร่ปลายนาสรรพคุณทางยา : ราก ใช้แก้ไข้ แก้พิษฝีภายใน ตำพอกศีรษะแก้ไข้ โรคผิวหนังผื่นคัน ต้มดื่มขับพยาธิ วัณโรค แก้พิษร้อน แก้กระษัยเส้นเอ็น แก้เบือเมา เปลือกต้น ต้มดื่มบำรุงธาตุ แก้ธาตุพิการ แก้บิด สมานแผล เมล็ดต้มดื่มแก้ไอเรื้อรั้ง ไอกรน ไอหอบ ไข้ซางในเด็ก ผลมะหวดบำรุงกำลัง แก้ท้องร่วง ใบสด ใช้รองพื้นและคลุมข้าวทำขนมจีนป้องกันไม่ให้บูด
กระเจียว : แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อต้นกระเจียวพบได้ตามหัวไร่ปลายนา มีดอกหลายสีทั้งขาวชมพู เหลือง แดง ประโยชน์ด้านการกินคือ หน่ออ่อนและดอกอ่อนใช้เป็นผักลวกกินกับน้ำพริก ลาบ ก้อย ขนมจีน แกงส้มก็ได้ บางบ้านกินสดก็มี ให้เส้นใยสูง สรรพคุณหน่ออ่อนเป็นยาสมานแผล ดอกอ่อนใช้ขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ แก้มดลูกอักเสบสำหรับสตรีหลังคลอด
ดาหลา
ดาหลาออกดอกตลอดปีแต่จะให้ดอกมากที่สุดช่วงฤดร้อน ตั้งแต่เดือนมีนาคม - เดือนพฤษภาคม ดอกดาหลามีสรรพคุณช่วยขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ อีกทั้งช่วยแก้ลมพิษ แก้โรคผิวหนัง นอกจากนี้ดอกยังใช้ทำอาหารพวกยำ แกง หรือจิ้มกับน้ำพริก ยิ่งไปกว่านั้นยังนำไปทำเครื่องดื่มผสมมะนาวและน้ำผึ้งมีรสชาติกลมกล่อมและสีสวยทีเดียว นับเป็นไม้ประดับสารพัดประโยชน์ควรค่าแก่ปลูกไว้อีกชนิดหนึ่ง
สมอไทย : สุมนไพรครอบจักรวาล
สมัยพุทธกาลเวลาพระพุทธเจ้าประชวรหรือพระสงฆ์อาพาธ มักเสวยหรือฉันผลสมอไทยเป็นยาหลัก จนได้รับยกย่องว่าเป็น "พุทธโอสถ" ผลอ่อนใช้เป็นยาระบาย แก้โลหิตในท้อง แก้น้ำดี ส่วนผลแก่แก้ไข้ขับเสมหะ แก้จุกเสียด บำรุงร่างกาย เนื้อไม้แก้บิด แก้ท้องผูก แก้หืดไอ เปลือกต้นต้มดื่มบำรุงหัวใจ ขับปัสสาวะ จัดเป็นสมุนไพรครอบจักรวาล ในอินเดียถือเป็น "ราชาสมุนไพร" กระทั่งมีคำกล่าวว่า "หากใครไม่มีแม่คอยดูแล มีแค่สมอไทยก็ไม่ต้องห่วงในเรื่องสุขภาพแล้ว"
มะขามเทศผลไม้ริมทางทั่วไปพบเห็นได้ทั่วทุกภาค ปลูกง่าย โตเร็ว ทนทาน จัดเป็นผลทีมีวิตามินซีและอีสูง ช่วยป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด ลดควาเสี่ยงโรคหัวใจ เส้นใยอาหารที่มีอยู่มากดีต่อระบบขับถ่าย ส่วนแคลเซียมและเหล็กช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนและโลหิตจางสรรพคุณทางยา- เปลือก หมอพื้นบ้านใช้เปลือกมาต้มน้ำแล้วอมแก้ปากเปื่อย แผลในปาก แก้ปวดฟัน ดื่มแก้ท้องเสีย แก้ท้องร่วง แก้อาเจียน หรือใช้ล้างแผล เปลือกต้มกับน้ำรวมกับเปลือกข่อยและเกลือแกง แล้วนำมาอมแก้ปวดฟัน
- ราก แก้ท้องร่วง กระชับโลหิต และน้ำเหลือง
- เนื้อหรือผล ช่วยบำรุงผิวพรรณ เล็บ เส้นผม ช่วยซ่อมแซมเซลล์ร่างกาย ลดระดับคอเลสเตอรอล ปัองกันการอ่อนเพลียร่างกาย นอกจากนี้ยังใช้ฝักแก่จัดนำมาโขลกพอกหน้าได้อีกด้วย
- ดอกและใบอ่อน ใช้ทำยาย้อมผมหรือยาสระผม เป็นยาย้อมผ้า แห อวน
- เมล็ดแก่ นำมาคั่วกระเทาะเปลือก กินเป็นยาถ่ายพยาธิในท้องเด็ก
บอระเพ็ด : ยาพาราพื้นบ้าน
แก้ไข้ทุกชนิด แก้กระหายน้ำ บำรุงร่างกาย บำรุงหัวใจ เจริญไฟธาตุ เป็นยาเจริญอาหารแก้ร้อนใน แก้อักเสบบอกช้ำภายใน เป็นยาขม เจริญอาหาร ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ช่วยลดความดันโลหิต
สรรพคุณ
- เถา แก้ไข้ แก้ร้อนไหน กระหายน้ำ บำรุงกำลัง บำรุงไฟธาตุ ช่วยเจริญอาหาร โรคไข้พิษทุกชนิด โดยใช้เถาแก่สดหรือต้นสด ครั้งละ 2 คืบครึ่ง ตำคั้นเอาน้ำดื่ม หรือต้มกับน้ำโดยใช้ น้ำ 3 ส่วน ต้มเคี่ยวให้เหลือ 1 ส่วน ดื่มวันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหารเช้า-เย็น หรือเวลามีอาการ
- ใบ ขับพยาธิในท้อง รักษาฟัน ตำให้ละเอียดพอกฝี แก้ฟกช้ำ ปวดแสบ ปวดร้อน
- ผล เป็นยาแก้ไข้พิษอย่างแรงและเสมหะเป็นพิษ แก้โรคทางเดินปัสสาวะ โรคโลหิตพิการ
ข้อควรระวัง : ผู้ป่วยโรคตับหรือโรคไต สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยง คนทั่วไปไม่ควรทานติดต่อกันเกิน 7 วัน
(เครดิตภาพ : leamkea)
** สมุนไพรใกล้ตัว มุ่งเสนอสรรพคุณทางยา การนำไปใช้ควรพิจารณาอย่างรอบด้าน **
หญ้าใต้ใบ : แก้ไข บำรุงตับ
ชื่ออื่นๆ มะขามป้อมดิน ไฟเดือนห้า หมากไข่หลัง หมากใต้ใบ ลูกใต้ใบ ฯลฯ สรรพคุณทั้งต้น แก้ไข้ทุกชนิด ขับปัสสาวะ รักษาริดสีดวงทวาร กามโรค ปวดท้องดีซ่าน ท้องเสีย และบิด ลดความดันโลหิต โดยนำต้นสดๆ 1 กำมือ ต้มกับน้ำ 2 ถ้วยแก้ว เคี่ยวให้เหลือ 1 ถ้วยครึ่ง ดื่มครั้งละครึ่งถ้วย ใบอ่อน แก้ไอสำหรับเด็ก ปรุงเป็นยาแก้อักเสบ แก้โรคตับ ตัวเหลือง ตาเหลือง คุมเบาหวานได้ดี ตำพอกรักษาแผลอักเสบให้แห้งเร็ว
หมอยาจีนเชื่อว่า ช่วยกำจัดพิษออกจากตับ มีผลทำให้สายตาดี บำรุงตับ รักษาอาการดีซ่าน หมอพื้นบ้านไทยและหมออายุรเวทอินเดียมีความเชื่อว่า หญ้าใต้ใบเกิดมาเพื่อตับ ใช้ต้มกินเป็นยาแก้ดีซ่าน แก้ตับอักเสบตัวเหลือง ตาเหลือง
ข้อควรระวัง : ห้ามใช้ในคนท้อง เพราะเป็นยาขับประจำเดือน
** สมุนไพรใกล้ตัว มุ่งเสนอสรรพคุณทางยา การนำไปใช้ควรพิจารณาอย่างรอบด้าน **